IPAD

IPAD 💫

"IPAD รุ่นไหนเหมาะกับเรา"

เราจะมาแนะนำรุ่น IPAD ที่เหมาะสำหรับการเรียน

เพื่อช่วยเพิ่มความมั่นใจในการเลือกซื้อมากขึ้น

มีตั้งแต่งบน้อย จนไปถึงงบมากๆ เลย

ซึ่งรุ่นที่เรานำมาแนะนำ มีทั้งหมด 3 รุ่น ด้วยกัน

และ 3 รุ่นที่นำมาแนะนำนี้ จะสามารถใช้คู่กับ Apple Pencil และ Smart Keyboard ได้

ไปดูกันเลยย >>>>

____________________________________________

[ IPAD MINI 2019]

เริมที่ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่ามินิเนอะ ไอแพดรุ่นที่มีหน้าจอเล็กขนาด 7.9″ และ พกพาง่าย ที่สุด
แต่ด้วยหน้าจอที่เล็ก การทำงานเช่นการพิมพ์งาน , ตัดต่อวีดีโอ ,วาดรูป อาจจะใช้ประสิทธิภาพ
หน้าจอไม่ได้มากเท่าที่ควร ชิพของ iPad mini เป็น A12 ตัวเดียวกับ iPhone XS [2018]
ซี่งยังถือว่าเร็วและแรงอยู่นะคะ ยังไม่ตกรุ่นเร็วๆนี้แน่นอน

..............

กล้อง 📷

กล้องหลัง 8 MP กล้องหน้า 7 MP สเปกกล้องที่ถ่ายได้สูงสุด full HD
และยังอยู่รอดในปี 2019 รวมถึงคนส่วนใหญ่นิยมใช้ iPad ถ่ายรูปกันน้อยลงแล้ว
กล้องสเปคนี้ เมื่อเทียบกับราคาก็ถือว่าไม่แย่ทีเดียว

...............

สี 🌈

iPad mini 5 มีด้วยกัน 3 สี ได้แก่

☺เทาสเปซเกรย์
☺เงิน
☺ทอง

..........

ความจุ 💿

ความจุ 64GB และ 256GB เริ่มต้นที่ ฿13,900

[ IPAD AIR ]

ถ้าแบบเข้าใจง่ายๆเลย นั่นก็คือการนำ iPad mini มาขยายจอให้เป็น 10.5″
เป็นรุ่นที่เราอยากแนะนำที่สุดเลย โดยส่วนตัวแล้วเราก็ใช้ตัวนี้อยู่
สำหรับใครที่อยากเลือกใช้ iPad ในการเรียน และสเปกไม่แย่
การดูภาพยนตร์ , ยูทูป , ตัดต่อวีดีโอ , ทำงาน , จดเลคเชอร์ หรือเล่นเกม
iPad Air เป็นตัวเลือกที่ดีเลยนะทุกคน เรารู้สึกว่าได้การใช้งานที่ดีขึ้นกว่า iPad Gen 7
เหมาะสำหรับบุคคลทั่วไป โดยเฉพาะใครที่กำลังเรียนอยู่แล้วไม่คิดจะใช้
สเปคไอแพดแบบแรงสุดขีด [ราคาด้วย] แต่ก็มีงบถึงรุ่นนี้ เราก็เชียร์ให้ซื้อเลย เย้ !

+++++++

ชิพของ iPad Air เป็น A12 ตัวเดียวกับ iPhone XS [2018] และ iPad mini 5
ที่ยังเร็วและอยู่กับ iPadOS ได้อีกนาน

..............

กล้อง 📷

กล้องหลัง 8 MP กล้องหน้า 7 MP สเปกกล้องที่ถ่ายได้สูงสุด full HD
และสามารถเชื่อมกับคีย์บอร์ดของ Apple ได้โดยตรงเช่นเดียวกับ iPad Gen 7

...............

สี 🌈

iPad Air มีด้วยกัน 3 สี ได้แก่

☺เทาสเปซเกรย์
☺เงิน
☺ทอง

..........

ความจุ 💿

ความจุ 64GB และ 256GB เริ่มต้นที่ ฿17,900

[ IPAD PRO ]

IPad Pro เป็นรุ่นแรกที่มีจอไร้ปุ่มโฮมเช่นเดียวกับ iPhone X
(ปลดล็อกด้วยการสแกนหน้า) จึงเรียกได้ว่าเป็น iPad ที่มีแต่หน้าจอได้เลยที
เดียว มี 2 ขนาด ได้แก่ 11” และ 12.9” ด้วยชื่อระดับโปร หน้าจอก็มีเทคโนโลยีระดับ Pro เช่นกัน
หรือถือเรียกว่า Promotion ที่หนัาจอจะแสดงผลได้ถึง 120 Hz
ทำให้ทุกการเคลื่อนไหวลื่นขึ้น รวมถึงการใช้ Apple Pencil รุ่น 2 วาดเช่นกัน
ที่ใช้งานร่วมกันแล้วลื่นไหลมาก หรือจะเป็นลำโพงที่มีถึง 4 ตัวรอบทิศทาง ที่ดังกว่ารุ่นอื่น

+++++++++

ชิพ iPad Pro เป็น A12Z อัพเกรดมากจาก A12 อีกทีนึง
ระดับความแรงที่เร็วที่สุดในแทปเล็ตทุกยี่ห้อในตลาดตอนนี้เลย

.............

กล้อง 📷

กล้องหลัง 12 MP สำหรับเลนส์ Wide และ 10 MP สำหรับเลนส์ Ultra wide
พร้อมแฟรช ต่างจากรุ่นอื่นที่ไม่มี (รวมถึงเซนเซอร์วัดระยะ LiDAR) ถ่ายได้ถึงระดับ 4K
รวมถึงกล้องหน้าที่เป็น TrueDepth สแกนใบหน้าของ iPhone หน้าจอติ่ง
ทำให้สามารถถ่ายภาพ Portrait ด้วยกล้องหน้าได้ด้วยนะ